-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 2
เอกสารเกี่ยวข้อง
เอกสารเกี่ยวข้อง
ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการพัฒนาเว็บบล็อก (Web blog) ด้วย Blog spot
เรื่อง Irregular Verb
(คำอกริยา) ผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
2.1
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (weblog)
เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง
ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน
ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่าง ๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้
จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล
สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน
ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก"
ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก
และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก
โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น
การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน
นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น
เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า
โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น
และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki
ข้อดีของ
Blog
1. มีอิสระที่จะนำเสนอสิ่งต่างๆ (ที่ไม่ไปก้าวล่วงบุคคลอื่น และไม่ผิดกฎกติกาของผู้ให้บริการ Blog)
2. เปิดโอกาสให้เจ้าของ Blog ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าชมและโต้ตอบกลับได้อย่างอิสระ
3. ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านภาษาโปรแกรมต่างๆ
4. หากพอมีความรู้ด้านภาษาเว็บพื้นฐาน (HTML) จะสามารถช่วยทำให้เข้าไปแก้ไข Source Code ได้
1. มีอิสระที่จะนำเสนอสิ่งต่างๆ (ที่ไม่ไปก้าวล่วงบุคคลอื่น และไม่ผิดกฎกติกาของผู้ให้บริการ Blog)
2. เปิดโอกาสให้เจ้าของ Blog ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าชมและโต้ตอบกลับได้อย่างอิสระ
3. ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านภาษาโปรแกรมต่างๆ
4. หากพอมีความรู้ด้านภาษาเว็บพื้นฐาน (HTML) จะสามารถช่วยทำให้เข้าไปแก้ไข Source Code ได้
5. เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบ Template ของ Blog ตามต้องการ
6. สามารถใช้ Blog ในการทำธุรกิจหารายได้ จากการโปรโมทสินค้าหรือบริการ
7. สามารถใช้สร้างเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้
8. ใช้งานได้ฟรี!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ยกเว้นต้องการจด Domain Name เป็น .com .net .org .info)
9. มี Template ให้เลือกใช้มากมาย (ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน)
10. Server มีความเสถียรสูง ปัญหาในด้านความช้า หรือ Server ล่ม พบน้อยมาก
ข้อเสียของ
Blog
1. ฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่างๆ ยังมีน้อยหากเทียบกับเว็บไซด์ที่สร้างเองหรือเว็บไซด์สำเร็จรู
2. แม้มีรูปแบบ Template ให้เลือกใช้มากมายแต่โครงสร้างเว็บก็ยังคงค่อนข้างตายตัว
3. เนื่องจากเป็นบริการให้ใช้ฟรี หากเราทำผิดกฎของผู้ให้บริการ Blog เราจะถูกแบน
และมีโอกาสถูกลบ Blog ได้ (แต่ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร ก็อยู่ได้อย่างยาวนานจนกว่าผู้บริการจะเลิกให้บริการ)
1. ฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่างๆ ยังมีน้อยหากเทียบกับเว็บไซด์ที่สร้างเองหรือเว็บไซด์สำเร็จรู
2. แม้มีรูปแบบ Template ให้เลือกใช้มากมายแต่โครงสร้างเว็บก็ยังคงค่อนข้างตายตัว
3. เนื่องจากเป็นบริการให้ใช้ฟรี หากเราทำผิดกฎของผู้ให้บริการ Blog เราจะถูกแบน
และมีโอกาสถูกลบ Blog ได้ (แต่ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร ก็อยู่ได้อย่างยาวนานจนกว่าผู้บริการจะเลิกให้บริการ)
การเลือกทำBlog ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายอีกวิธีหนึ่ง
ในการนำเสนอ หรือ โปรโมท สินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งปัจจุบันวงการ
Blog นั้นได้พัฒนาขึ้นมากทั้งลูกเล่นและฟังก์ชั่น
การออกแบบดีไซน์ มีรูปแบบ Template สวยๆให้เลือกใช้มากมาย
ครอบคลุมในสิ่งจำเป็นหลักๆได้ทั้งหมด และหากท่านมีความรู้ในเรื่องของ ภาษา HTML
และ CSS ด้วยแล้วนั้น การสร้างBlog ในระดับคุณภาพดีดี สัก Blog
ขึ้นมา อาจจะเทียบได้กับการสร้างเว็บไซด์แบบปกติ
หรือเว็บไซด์สำเร็จรูปดีดี สักเว็บได้เลยทีเดียว (หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำไป) และอีกสิ่งหนึ่งที่หลายๆท่านอาจจะคาดไม่ถึง
คือ เรื่องของ การทำSEO ให้เว็บไซด์ติดอันดับต้นๆของ
Google ในการค้นหา สำหรับ Blogger (หรือ
Blogspot.com) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งของ Google เอง มันจะแรงและเร็วมากในการทำอันดับ หากท่านรู้วิธีการ เทคนิค และ
หลักในการทำอย่างถูกต้องเหมาะสม
ที่มา: https://sites.google.com/site/aminunokprojectadvance/khxdi-khx-seiy-khxng-blog
ที่มา: https://sites.google.com/site/aminunokprojectadvance/khxdi-khx-seiy-khxng-blog
2.2 เนื้อหา
Verb (คำกริยา) คือ คำที่บอกถึงการกระทำอย่างชัดเจน หรือ
สถานะของการกระทำเรา
เรียกว่า “คำกริยา”
กริยา
เรียกว่า “คำกริยา”
กริยา
1. กริยาที่เป็นปกติ (Regular
Verb)
2. กริยาที่ไม่เป็นปกติ (Irregular Verb)
2. กริยาที่ไม่เป็นปกติ (Irregular Verb)
กริยา
1.กริยาที่เป็นปกติ ( Regular Verb)
คือ คำกริยาที่เมื่อเป็นอดีต หรือเป็น Past Participle แล้วเติม ed ลงไปท้ายคำนั้น
2.กริยาที่ไม่เป็นปกติ (Irregular Verb)
คือ “คือคำกริยาที่มีการเปลี่ยนรูปไปอย่างชัดเจน” เมื่อเป็นอดีตแล้ว หรือเป็น Past Participle แล้วจะไม่เติม ed หลังคำกริยานั้นแต่จะเปลี่ยนรูปไปเลย Irregular verb จะแปลตามตัวได้ว่า กริยาที่ไม่มีกฏเกณฑ์
in = ไม่, in + regular = irregular
(ให้สังเกตว่าเปลี่ยน in เป็น in เป็น ir ไม่ปรกติ ไม่มีกฏเกณฑ์ ที่จะสามารถเปลี่ยนในลักษณะนี้ได้)
คือ “คือคำกริยาที่มีการเปลี่ยนรูปไปอย่างชัดเจน” เมื่อเป็นอดีตแล้ว หรือเป็น Past Participle แล้วจะไม่เติม ed หลังคำกริยานั้นแต่จะเปลี่ยนรูปไปเลย Irregular verb จะแปลตามตัวได้ว่า กริยาที่ไม่มีกฏเกณฑ์
in = ไม่, in + regular = irregular
(ให้สังเกตว่าเปลี่ยน in เป็น in เป็น ir ไม่ปรกติ ไม่มีกฏเกณฑ์ ที่จะสามารถเปลี่ยนในลักษณะนี้ได้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น